Tuesday, October 31, 2006

ตอนที่ 2

ผมเดินเข้าไปหายูโกะที่กำลังเช็ดหน้าอยู่แล้วแนะนำตัวเองเป็นภาษาญี่ปุ่น
"เอ่อ วาตาชิว่า...เจด เดส ครับ"
"พูดภาษาไทยได้ค่ะ" ยูโกะตอบกลับมาที่ผมแล้วยิ้มพร้อมกับโค้งให้นิดหน่อยตามลักษณะคนญี่ปุ่น
ผมสะดุ้งแล้วถามต่อ
"อ้าว พูดไทยได้เหรอครับดีจังชื่ออะไรครับ"
"ชื่อยูโกะค่ะ" เธอบอกผมแล้วก็ไม่ได้สนใจอะไรผมอีก
หลังจากนั้นผมเริ่มรู้สึกตัวว่าผู้หญิงคนนี้ "ยาก"หมายถึงสนิทด้วยยากนะครับ
เพราะว่าวันนั้นผมคุยกับเธอเพียงแค่นั้นตริงๆ ยูโกะไม่ได้สนใจอะไรผมอีกเลย ผู้หญิงคนนี้หยิ่งมากกกกกกกกกก
อย่างไรก็ตามคติของผมคือ ต้องพยายามและดักลอบต้องหมั่นกู้เจ้าชู้ต้องหมั่นเกี้ยว
ผมพยายามไปที่ชุมนุมทุกวัน แน่นอนผมไม่ได้ตั้งใจไปเล่นกีฬาหรอกผมตั้งใจไปหายูโกะมากกว่า
แต่เธอก็ไม่ค่อยสนใจผมเหมือนเดิม วันนึงๆยูโกะคุยกับผใอย่างมากก็แค่ 2-3 คำเอง
สิ่งที่ผมทำได้ก็คือดูเธอซ้อมมวยแล้วก็ข้นไปเล่นด้วยบ้างก็เท่านั้น
................
...............
แล้วโอกาสก็มาจนได้วันที่ผมได้กินข้าวมื้อแรกกับเธอ
วันอากาศเริ่มหนาว ท้องฟ้ามืดเร็วผิดกวาปกติ เธอซ้อมมวยเสร็จแล้วนั่งอยู่หน้าห้องเพาะกาย
ผมเดินเข้าไปยิ้มและพูดกับยูโกะ
"เอ่อ ยูโกะครับพรุ่งนี้เย็นไปเที่ยวพัทยากันไหมครับ เราจะไปกับเพื่อนๆexchange student ก็ไปนะ ตูนกับเสตฟไง"
ยูโกะทำหน้ายิ้มและมีสีหน้าบอกให้รู้ว่าตัดสินใจลำบาก
"อื้ม.....ไม่รู้นะ...อยากไปน้า แต่......คิดยากน้า"
"เออ งั้นไม่เป็นไรไปกินข้าวกันมั๊ย"
"ไปค่ะ"
ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเองเกือบคิดว่าฝันไป ความจริงอยากจะตบหน้าตัวเองว่าเจ็บหรือเปล่าแต่ไม่กล้าทำต่อหน้าเธอเดี๋ยวเค้าจะหาว่าผมบ้า
"จริงเหรอรอแป๊บนะเดี๋ยวเราไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน"ว่าแล้วผมก็รีบวิ่งไปเปลี่ยนชุดจากชุดกีฬาเป็นชุดทำงานทันที
คืนวันนั้นผมพายูโกะเดินออกไปทางท่าพระอาทิตย์ เดินเล่นทางเรียบริมแม่น้ำแสงไฟ แสงดาวดูสวยเป็นพิเศษสำหรับคืนนี้
"กินอะไรดีครับ"
"อะไรก็ได้ค่ะ"
ผมถามกลับด้วยความกวนตีนของผม
"เรอะ งั้นกินส้มตำดีไหม"
ยูโกะได้ยินแล้วทำตาโต ดีใจ
"จริงเหรอ!!ยูโกะชอบส้มตำค่ะ"
คำตอบของเธอทำให้ผมนิ่งไปประมาณ 5 วินาทีโธ่อาหารมื้อแรกทำไมเป็นส้มตำวะ?
"จ๊ะ ดีจ๊ะกินส้มตำก็ได้"

4 comments:

crazycloud said...

ความรัก ทำให้เราสามารถทำอะไรได้มากมาย
โดยเฉพาะรักแท้ในใจเจตน์ ยิ่งใหญ่เท่าโลกากู

เวลาผมมองความรักของเขาผมอดยิ้มที่มุมปากและสีข้างใจไม่ได้ เพราะ เจตน์ พิสูจน์อย่างกล้าหาญในการตีฝ่าความรูสึกต่างๆเยี่ยงอัศวินแห่งความรัก

เมื่อความรักบังเกิด แม้ทะเลจีนใต้ ก่อมิอาจกั้น

เป็นความยิ่งใหญ่ และเป็นการถอนทุนโกบิริคืนอย่างสวยงาม

มึงจะให้ไอ้พวกเจ้าอาณานิคมมันหยามเหรอ! กลองรัว ปี่เชิด

เจตน์ เกียงอุย แห่งกองทัพพระจันทร์ ควบม้า ถือทวนเก้าศอก เข้าบั่นคอ ไอ้ฝรั่งหัวทองขาดกระจุย แม้ว่าจะพลาดเป้าไปหน่อย แต่ยังไม่วายแหงนคอตั้งบ่าแสยะยิ้ม ให้ผมที่ลานประหารแห่งนั้น

logakoo said...

วันนั้นเผอิญขุนศึก สองคนดันจับเป้าหมายผิดตัวแหะแหะ

Anonymous said...

พี่เจตน์ เจรอตอนต่อๆมาอยู่นะ ว่างๆก็เข้ามาเล่าต่อนะ หนุกดี แล้วก็พี่เจตน์เป็นคนแรกเลยนะที่ทักว่าอ้วนขึ้น จะพยายามไม่ให้มันมากกว่านี้ 555

Anonymous said...

ชอบอะ ไว้อ่านต่อ
พี่เจตต์สู้ๆ